ท่านคงยินดีมาก จึงมีกำลังลุกขึ้นนั่ง พร้อมทั้งถามว่า

ทุกอย่างเข้าที่ดีหรือ (คือการจัดทำพิธีพุทธาภิเษกในวันพรุ่งนี้)

ท่านได้บอกขึ้นด้วยว่า “อย่าลืมไปมนต์ท่านหมุน มากัน”  (หมายความว่าให้ไปนิมนต์ พระอาจารย์หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง มาร่วมนั่งปรกปลุกเสกด้วย) วันรุ่งขึ้น พระเครื่องเมืองสยาม พิธีพุทธาภิเษกได้เริ่มขึ้นตามหลักวิชาสายเขาอ้อ โดยทำกันที่ศาลาข้างโบสถ์ เนื่องจากขณะนั้น อุโบสถวัดดอนศาลา กำลังมีงานเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดย “ช่างหลวง” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานทีมช่างให้มาเขียนรูปดังกล่าว  พระเครื่อง พระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมนั่งปรกปลุกเสกมีหลายท่าน นอกจากพระอาจารย์หมุน แล้วก็มี พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง “โกหว่า” (วรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์) ได้นิมนต์มาเอง โดยมาล่วงหน้าหลายวัน

สำหรับพระอาจารย์นำ

ลูกศิษย์ได้ให้ท่านนั่งบนเก้าอี้ผ้าใบแบบพับนอนได้ แล้วช่วยกันยกท่านทั้งเก้าอี้จากกุฎีที่พักมายังศาลาที่ทำพิธี เวลานั้น พระอาจารย์นำมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา พระเครื่อง อาการเพลียที่เห็นเมื่อวาน ปลิดทิ้งไปหมด น่าอัศจรรย์มาก วัตถุมงคล ที่กองอยู่กลางศาลา ประกอบด้วย พระบูชารูปเหมือน ๕ นิ้ว, รูปเหมือนเล็ก, พระกริ่งทักษิณชินวโร ฯลฯ (ไม่มีเหรียญรุ่นแรก เนื้อโลหะบ้านเชียง ซึ่งได้ทำพิธีปลุกเสกไปแล้วก่อนหน้านี้)  พิธีปลุกเสกนานหลายชั่วโมง หยุดพักเที่ยง พระเครื่อง แล้วปลุกเสกต่อในตอนบ่ายอีกช่วงหนึ่ง  ภายหลังพิธีปลุกเสกผ่านไปแล้วประมาณ ๑๐ วัน พระเครื่องเมืองสยาม (หากผิดขออภัย เพราะไม่มีต้นฉบับอยู่ในมือ) พระอาจารย์นำ ก็มรณะ วงการพระเครื่องทางกรุงเทพฯ ปล่อยข่าวว่า พระรุ่นนี้ ปลุกเสกไม่ทัน พระอาจารย์นำมรณภาพไปก่อน  ซึ่งไม่เป็นความจริง (วันหลังจะนำมาเขียนถึงอีกครั้งในเรื่องนี้)